สารฮิสตามีนในน้ำปลา

ในการผลิตน้ำปลา Thai fish sauce ต้องมีความเข้มข้นของสารฮิสตามีนไม่เกินเกณฑ์ตามมาตรฐาน ระดับต่ำสุดของฮิสตามีนที่ก่อให้เกิดอาการคือ 100 mg/dL ในกระบวนการผลิตเราใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบปริมาณฮิสตามีนในน้ำปลาได้ โดยการวิเคราะห์ทางเคมี เพื่อตรวจวัดความเข้มข้นของสารฮิสตามีนในตัวอย่างน้ำปลา ทั้งนี้สารฮิสตามีนต้องไม่เกินเกณฑ์ตามมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหารของแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) และประเทศทางยุโรป ต่างกำหนดให้น้ำปลาจำเป็นต้องมีค่าปริมาณฮิสตามีนในน้ำปลา ไม่เกิน 200 ppm

ถ้าเราตั้งธงเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของเราเป็นหลัก เราสามารถเลือกน้ำปลาที่ดีได้ กล่าวคือ น้ำปลาที่ดีแน่นอนว่าต้องปลาไส้ตันที่นำเอามาใช้หมักต้องสดใหม่ โดยผู้ผลิตจะใส่ใจตั้งแต่การคัดเลือกปลาที่นำมาทำน้ำปลา โดยดูจากลักษณะของปลา เช่น ตาใส มีลายเส้นที่ตัวปลา ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า และ ที่สำคัญต้องทำการหมักในเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ปลาเน่าเสีย เพียงแค่นี้จะทำให้เราได้น้ำปลาคุณภาพดี และมีสารฮีสตามินต่ำ

ดังนั้นการเลือกซื้อหรือบริโภคน้ำปลาที่ผลิตใกล้แหล่งวัตถุดิบ และได้มาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยง ทำให้เราไร้กังวลเรื่องสารก่อภูมิแพ้ เพราะอย่างน้อยภายในบ้านของเราเอง เราควรเลือกได้ว่าจะซื้อน้ำปลาคุณภาพประมาณไหนและมีแหล่งที่มาจากที่ไหนเข้ามาอยู่ในห้องครัวบ้านเรา

หากกังวลเรื่องคุณภาพของน้ำปลา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำปรึกษาและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารฮิสตามีนในน้ำปลาได้